ข่าวสาร

บทความ

พฤศจิกายน 2562

แนวโน้มอสังหา 2563 และโอกาสทองของผู้บริโภค

แนวโน้มอสังหา 2563 และโอกาสทองของผู้บริโภค

ตลาดอสังหาริมทรัพย์โค้งสุดท้ายของปี 2562 ยังคงน่าจับตาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สถานการณ์ค่อนข้างทรงตัวมาพักใหญ่ แต่สิ้นปีนี้กลับกลายเป็นช่วงโอกาสทองของผู้บริโภคในการจับจองที่อยู่อาศัย เนื่องด้วยมีหลากหลายปัจจัยสนับสนุนทั้งจากฝั่งภาครัฐและเอกชนที่ได้กระตุ้นอสังหาฯ ตลาดจึงส่อแววคึกคักในช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงช่วงสิ้นปีหน้า พร้อมกับสิทธิพิเศษมากมายที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายกว่าที่เคย


3 ปัจจัยที่ช่วยให้เป็นเจ้าของอสังหาฯได้ง่ายขึ้น

ปัจจัยสนับสนุนแรกที่ทำให้ผู้บริโภคซื้ออสังหาฯมากขึ้น คือ มาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล โดยได้ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัย จากเดิมค่าโอนอยู่ที่ 2% จะลดเหลือเพียง 0.01% และค่าจดจำนองจากเดิม 1% ลดเหลือ 0.01%  เท่านั้น มาตรการนี้จะลากยาวไปจนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2563 พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 2.5% ในช่วง 3 ปีแรกเพื่อกระตุ้นตลาดซื้อขายอสังหาฯในช่วงสิ้นปีนี้และตลอดทั้งปีหน้าให้มีแนวโน้มสดใสมากขึ้น

มาตรการลดค่าโอนและจดจำนองอสังหาฯ ถูกนำมาใช้เช่นเดียวกับปี 2558-2559 ซึ่งรัฐบาลเคยใช้นโยบายนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยพบว่าตัวเลขขยับขึ้นไปสูงกว่า 34% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด) การใช้มาตรการนี้จะส่งผลดีทั้งต่อตัวผู้ประกอบการที่จะสามารถเร่งระบายยูนิตคงค้างในตลาดได้มากขึ้น ประกอบกับช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายกว่าเดิม โดยเน้นไปที่กลุ่มราคาที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เนื่องจากมียอดสต็อกคงค้างรวมกันสูงถึง 50% แต่ขณะเดียวกันยังมีส่วนสนับสนุนให้อสังหาฯในเซ็กเม้นต์อื่นๆได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

สำหรับปัจจัยบวกประการที่ 2 คือสงครามด้านราคาของเหล่าผู้ประกอบการ ระหว่างที่มาตรการกระตุ้นอสังหาฯประกาศใช้ แน่นอนว่าย่อมมีเอฟเฟ็กต์เกิดขึ้นตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือสงครามแข่งขันด้านราคาของดีเวลลอปเปอร์ที่ต่างนำเสนอโปรโมชั่น “ลด แลก แจก แถม” เพื่อดึงดูดลูกค้า เนื่องจากเป็นช่วงที่คาดว่าจะมีดีมานด์เข้ามาหมุนเวียนในตลาดเพิ่มขึ้นสูง จึงต้องเร่งอัดโปรโมชั่นระบายยูนิตขายให้ได้มากที่สุด ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่จะได้มีทางเลือกในการซื้อที่อยู่อาศัยที่หลากหลายท่ามกลางระดับราคาที่ถูกลง

โครงการแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียม ถือเป็นประเภทที่อยู่อาศัยที่ดีเวลลอปเปอร์ต่างเร่งอัดโปรโมชั่นมากที่สุด เนื่องจากมียูนิตคงค้างในระดับสูง อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมที่ผู้พัฒนาจะเปิดตัวโครงการใหม่ๆเพื่อสร้างยอดขายเพิ่ม โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่อยู่ในโซน Prime Location มีกลุ่มดีมานด์ให้การตอบรับดีอยู่แล้ว แต่หากมีมาตรการมาช่วยกระตุ้นการซื้อขาย ยิ่งมีส่วนช่วยให้โครงการคอนโดมิเนียมในโซนดังกล่าวจับจองได้ง่ายขึ้น สำหรับโซนที่ได้รับความนิยมมักอยู่ใจกลางเมือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้รัศมีรถไฟฟ้า อาทิเช่น สุขุมวิทช่วงต้น-กลาง อย่างโซนอโศก พร้อมพงษ์ และทองหล่อ โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจและกำลังเปิดขายในบริเวณดังกล่าว ได้แก่ Circle Rein ซอยสุขุมวิท 12 อยู่ห่างจาก BTS สถานีอโศกเพียง 550 เมตร หรือจะเป็นโครงการ Circle Sukhumvit 31 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ใกล้ BTS สถานีพร้อมพงษ์และ MRT สุขุมวิท

โครงการ Circle Rein

โครงการ Circle Sukhumvit 31

ปัจจัยบวกข้อสุดท้ายคือ การขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้าในหลายพื้นที่ทั่วเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆเปิดตัวหลายแห่ง โดยได้ผุดขึ้นตามแนวการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้าเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันพบว่าระดับราคาคอนโดมิเนียมยังไม่สูงมากนัก แต่คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้เมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่สร้างเสร็จและเปิดใช้บริการ  ระดับราคาซื้อขายคอนโดมิเนียมจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน ผู้ซื้อสามารถสร้างผลตอบแทนจากการขายต่อรีเซลหรือปล่อยเช่าได้อย่างคุ้มค่าในระยะยาว

นอกจากนี้ดีมานด์อีกกลุ่มหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้อย่าง Expat ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย นับว่าเป็นอีกกลุ่มกำลังซื้อสูงในตลาดอสังหาฯในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในโซนสุขุมวิทถือเป็นพื้นที่ยอดนิยมในการอยู่อาศัยของ Expat  จากพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ.2522 ได้กำหนดให้ ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ในอัตราส่วน 49 % ของจำนวนห้องชุดทั้งหมดในอาคารที่จดทะเบียน  หากว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคตส่งผลให้มีชาวต่างชาติเข้ามาพำนักระยะยาวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าจะมีปรับกฏเกณฑ์หรือข้อระเบียบบางส่วนให้สอดคล้องกับความต้องการของทุกฝ่าย และต้องพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ในการออกกฏเกณฑ์ให้ทันสมัย และเหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน

โดยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 มีแนวโน้มสดใส จากหลากหลายปัจจัยบวกทั้งนโยบายกระตุ้นอสังหาฯจากภาครัฐที่ครอบคลุมไปจนถึงปลายปีหน้า รวมถึงการปรับลดราคาขายและข้อเสนอพิเศษต่างๆของบรรดาดีเวลลอปเปอร์ เอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มผู้บริโภคและยังส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง

อ้างอิงข้อมูล:
- ฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด
- https://www.landinvestingthai.com